เมล็ดมัสตาร์ดต้นสีแดง มัสตาร์ดใบ ‘Red Frills’ เป็นผักที่คุณควรจะตรึกตรองปลูกเอาไว้ภายในฤดูที่จะถึงนี้ พืชประเภทนี้ให้ใบที่กินได้อร่อยซึ่งฉงนใจกับรสของมัน ใบไม้ที่มีมัสตาร์ดพริกไทยรสเข้ากันได้กับสลัดรสเหมาะกันกับคอทเทจชีสแล้วก็ไข่ พืชที่โตสุดกำลังเป็นส่วนเสริมที่ดีในของกินทวีปเอเชียตำหนิก โปรดจดจำไว้ว่ามัสตาร์ดใบไม่จำเป็นที่ต้องกินดิบแค่นั้น ผักประเภทนี้สามารถนึ่งคั่วหรือบดเป็นซอสได้ เม็ดของมัสตาร์ดใบ ‘Red Frills’ ช่วยทำให้คุณเพลิดเพลินใจกับใบสีแดงเข้มแสนอร่อย ใบ Pinnatisect ที่หุ้มห่อด้วยใบมีลักษณะเป็นกุหลาบหนาแน่น คุณสามารถเก็บเกี่ยวใบผู้เดียวที่มีก้านหรือกุหลาบอีกทั้งต้น การถอนต้นอ่อนจะช่วยกระตุ้นให้พืชแพร่ขยายได้ดิบได้ดีขึ้น
คุณสามารถเริ่มเพาะเลี้ยงในเตียงเม็ดได้แล้วในมี.ค.หรือเดือนเมษายน แล้วจะย้ายต้นกล้าไปปลูกยังพื้นที่จุดมุ่งหมายในสิ้นเดือนเดือนพฤษภาคมหรือต้นเดือนเดือนมิถุนายน การโปรยโดยตรงไปยังทุ่งข้าวควรจะเกิดขึ้นในพ.ค.เดือนกรกฎาคมรวมทั้งเดือนสิงหาคม หว่านเม็ดลึกเพียงแค่ 0.5 ถึง 1 เซนติเมตร ในแถวห่างกัน 30 x 60 เซนติเมตร กุหลาบใบจะปรากฏค่อนข้างจะเร็วแล้วก็ตามมาด้วยก้านดอกช่วงเวลาการปลูกพืชสั้นๆที่ใช้เวลา 3-4 อาทิตย์ควรจะเกื้อหนุนให้ท่านปลูกผักจำพวกนี้ เม็ดของมันสามารถหว่านเป็นพืชหลักหรือผลิตผล เหมาะสมมากในการเพาะปลูกในปรากฏการณ์เรือนกระจก (อุโมงค์) ตลอดทั้งปี ไม่มีปัญหาใดๆก็ตามเนื่องมาจากจะเจริญวัยได้ในดินแทบทุกจำพวกถ้าหากพื้นที่มีแดดแรงแล้วก็รดน้ำเสมอๆ พืชทนต่ออุณหภูมิต่ำแล้วก็จัดแจงกับน้ำค้างกลายเป็นแข็งขนาดเล็กได้ค่อนข้างจะดี
ประโยชน์สุขภาพที่ได้จาก เมล็ดมัสตาร์ดต้นสีแดง
มันยังมีธาตุฟอสฟอรัสที่จำเป็นต้องในการดำเนินการของไตรวมทั้งหัวใจ ผลดีอีกอย่างของมัสตาร์ดเป็นการมีส่วนร่วมของแคลเซียม (สำคัญมากต่อร่างกายของกระดูกรวมทั้งฟัน) รวมทั้งแมกนีเซียมมัสตาร์ดยังให้วิตามินซีซึ่งให้ท่านโภคทรัพย์ต่อต้านอนุมูลอิสระแล้วก็การคุ้มครองป้องกันของดวงตาผิวหนังแล้วก็ระบบฟุตบาทหายใจ ขอเสนอแนะให้บริโภคมัสตาร์ดในตอนวัยหมดระดูเพื่อลดลักษณะของคุณช่วยรักษาความดันโลหิตต่ำความดันเลือดต่ำ มันเกิดขึ้นเมื่อความดันเลือดต่ำกว่าธรรมดา ซึ่งแสดงว่าการเต้นของชีพจรซึ่งจากที่คุณทราบแน่ๆว่าต้องรับผิดชอบสำหรับเพื่อการสูบฉีดเลือดไปยังที่เหลือของร่างกายของพวกเรามีลัษณะทิศทางที่จะก้าวช้าลงกว่าธรรมดาเพราะฉะนั้นความดันโลหิตต่ำสามารถก่อให้เกิดการเป็นลมเป็นแล้งแล้วก็หน้ามืดด้วยเหตุว่าทั้งยังหัวใจหรือสมองหรือสุดท้ายอวัยวะอื่นๆได้รับเลือดที่จำเป็นจะต้อง
ในทางนี้ มัสตาร์ดช่วยรักษาความดันโลหิตต่ำตามธรรมชาติ เมล็ดมัสตาร์ดต้นสีแดง เนื่องด้วยมีความรู้และมีความเข้าใจตามธรรมชาติที่น่าดึงดูดเป็นอย่างมากสำหรับเพื่อการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดรวมทั้งเพิ่มระดับความดันเลือดมัสตาร์ดจัดเป็นพืชกรุ๊ปเดียวกับกะหล่ำและก็บคอยควัวลี เม็ดมัสตาร์ดเป็นเครื่องเทศที่นิยมใช้สำหรับในการทำอาหารมาเป็นเวลายาวนาน กระทั่งเดี๋ยวนี้ เนื่องจากว่าสามารถกระตุ้นต่อมรู้รสได้ดิบได้ดี นอกเหนือจากนี้มัสตาร์ดยังมีสารที่มีคุณประโยชน์ทางยาอีกเยอะแยะแอบซ่อนอยู่ในด้านพฤษศาสตร์ มัสตาร์ด เป็นพืชในสกุลและก็สกุลเดียวกับกะหล่ำดอก กะหล่ำปลี รวมทั้งผักกาดขาว มัสตาร์ดที่ประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมมี 3 จำพวก ยกตัวอย่างเช่น มัสตาร์ดสีน้ำตาล (brown mustard) มัสตาร์ดสีดำ (black mustard) และก็มัสตาร์ดสีขาว (white mustard) มัสตาร์ดสีดำแล้วก็ขาวมีเกิดในแถบยุโรปสม่ำเสมอกับทวีปเอเชีย รวมทั้งมัสตาร์ดสีน้ำตาลมีบ้านเกิดในทวีปเอเชีย จำนวนมากจะใช้มัสตาร์ดสีขาวเป็นเครื่องเทศ รวมทั้งมัสตาร์ดประเภทอื่นใช้ผลิตน้ำมันมัสตาร์ด
มัสตาร์ดสามารถเติบโตแล้วก็เบ่งบานได้ตามธรรมชาติ แม้กระนั้นเมื่อทำเป็นสวนเป็นไร่อย่างเป็นจริงเป็นจัง ในยามที่ดอกมัสตาร์ดเบ่งบานเหลืองแพรวพราวพร้อมทั้งยังไร่ มันช่างเป็นภาพอันงามดังสรวงสวรรค์สร้าง อย่าง “ทุ่งมัสตาร์ดโหลผิง” ที่แผ่นดินยูนนาน อีกหนึ่งทิวภาพอันสวยที่นักเดินทางต่างใฝ่ฝันต้องการจะไปสัมผัสสักหนึ่งครั้งทุ่งดอกมัสตาร์ดเมืองโหลผิง อยู่ในมนฑลยูนนาน เมืองจีนจัดเป็นทุ่งมัสตาร์ดที่มีบริเวณกว้างใหญ่ ไกลสุดสายตา ในตอนกุมภาพันธ์ถึงมี.ค.จะเป็นฤดูเพาะปลูก รวมทั้งผลิดอกบานสะพรั่งเหลืองแพรวพราวดูดี จากอุตสาหกรรมการกสิกรรม ได้เปลี่ยนมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยว เย้ายวนใจนักเดินทางทั้งโลก สร้างรายได้ให้กับคนภายในพื้นที่ได้อย่างยอดเยี่ยมทีเดียว
มีงานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยที่ค้นพบว่า มัสตาร์ดบางทีอาจช่วยทุเลาลักษณะของโรคสะเก็ดเงินได้ เนื่องจากว่ามีสารต้านทานการอักเสบ ที่ช่วยทุเลาลักษณะของโรคอักเสบเรื้อรังอย่างโรคสะเก็ดเงินได้ ทั้งยังยังมีคุณลักษณะที่ช่วยกระตุ้นรวมทั้งเพิ่มการบูรณะของร่างกาย ทำให้แผลหายได้เร็วเพิ่มขึ้นอีกด้วยข้อควรคำนึงสำหรับการกินมัสตาร์ดการกินมัสตาร์ด ไม่ว่าจะอยู่ในแบบอย่างใบ เม็ด หรือซอสมัสตาร์ดในจำนวนธรรมดาเท่าที่สามารถเจอได้ในของกินทั่วๆไปนั้นคาดว่าจะไม่เป็นอันตราย และไม่ก่อให้เกิดผลกระทบอะไรก็แล้วแต่แม้กระนั้นการกินในจำนวนมากเหลือเกิน อาจก่อให้เป็นผลใกล้กัน อาทิเช่น เจ็บท้อง ท้องร่วง หรือการอักเสบในระบบทางเดินอาหารได้
นอกจากนั้น บางบุคคลบางทีก็อาจจะเป็นโรคภูมิแพ้แพ้ต่อเม็ดมัสตาร์ด เป็นสาเหตุของการเกิดอาการแพ้ อย่างเช่น อาการคัน อาการบวม หายใจไม่สะดวก จนกระทั่งขั้นเสียชีวิตได้ คนที่ไม่เคยกินมัสตาร์ด ควรจะเริ่มจากการกินในจำนวนน้อยๆแล้วก็รับการดูแลรักษาในทันทีทันใดถ้าพิจารณาพบว่ามีลักษณะอาการแพ้เกิดขึ้นเมื่อเม็ดมัสตาร์ดเริ่มโตพวกเขาปรารถนาการดูแลน้อย พวกเขาบันเทิงใจกับลักษณะอากาศที่เย็นแล้วก็จะเฆี่ยน (ดอกไม้) ได้อย่างเร็วในลักษณะอากาศที่อบอุ่น ในเวลานี้บางทีอาจดูเหมือนกับว่าเป็นสิ่งที่ดีถ้าหากคุณกำลังมองหาการปลูกเม็ดมัสตาร์ด แม้กระนั้นไม่ใช่ พืชมัสตาร์ดที่โบลต์ด้วยเหตุว่าลักษณะอากาศอบอุ่นจะผลิตดอกไม้แล้วก็เม็ดที่ไม่ดี เป็นเรื่องดีที่สุดที่จะเก็บเอาไว้ในวงจรดอกธรรมดาเพื่อเก็บเกี่ยวเม็ดมัสตาร์ดที่ดีเยี่ยมที่สุด.
เม็ดมัสตาร์ดปรารถนาน้ำ 2 นิ้วต่ออาทิตย์ โดยธรรมดาในตอนที่อากาศเย็นคุณควรจะมีปริมาณน้ำฝนพอเพียงที่จะให้สิ่งนี้ แต่ว่าถ้าเกิดคุณไม่ทำประโยชน์จำเป็นจะต้องรดน้ำเพิ่มเติมอีก.พืชเม็ดมัสตาร์ดไม่จำเป็นที่ต้องให้ปุ๋ยถ้าหากปลูกลงในดินสวนที่ได้รับการปรับปรุง แม้กระนั้นหากคุณไม่มั่นใจว่าดินของคุณอุดมด้วยสารอาหารคุณสามารถเพิ่มปุ๋ยที่สมดุลให้กับรากเมื่อพืชมีความสูง 3 ถึง 4 นิ้ว.ขั้นตอนการเก็บเกี่ยวเม็ดมัสตาร์ดพืชมัสตาร์ดจะมีดอกสุดท้ายรวมทั้งไปที่เม็ด ดอกไม้ของเม็ดมัสตาร์ดโดยธรรมดาจะมีสีเหลือง แต่ว่าบางจำพวกมีดอกสีขาว
เมล็ดมัสตาร์ดเป็นเครื่องเทศที่นิยมใช้ในการปรุงอาหาร
เมื่อดอกมัสตาร์ดโตแล้วก็โตเต็มกำลังมันจะแปลงเป็นฝัก มองฝักพวกนี้เพื่อเริ่มกลายเป็นสีน้ำตาล สัญญาณอีกประการหนึ่งที่คุณกำลังใกล้เวลาเก็บเกี่ยวเป็นใบของพืชจะเริ่มเป็นสีเหลือง ระวังอย่าทิ้งฝักไว้ภายในต้นเม็ดมัสตาร์ดนานเหลือเกินด้วยเหตุว่ามันจะเปิดออกเมื่อสุกเต็มกำลังแล้วก็การเก็บเกี่ยวเม็ดมัสตาร์ดจะหายไป.ลำดับต่อไปสำหรับการเก็บเกี่ยวเม็ดมัสตาร์ดเป็นการเอาเม็ดออกมาจากฝัก คุณสามารถทำได้ด้วยมือของคุณหรือคุณสามารถวางหัวดอกไม้ในถุงที่ทำจากกระดาษรวมทั้งอนุญาตให้พวกเขาสำเร็จการสุก ฝักจะเปิดด้วยตัวเองในหนึ่งถึงสองอาทิตย์แล้วก็เขย่าเบาๆของถุงจะสั่นเม็ดมัสตาร์ดจำนวนมากหละหลวม
เม็ดมัสตาร์ดสามารถประยุกต์ใช้ใหม่ได้ แม้กระนั้นเหมือนกับสมุนไพรและก็เครื่องเทศอื่นๆแม้คุณเก็บเอาไว้ในระยะยาวพวกเขาควรต้องแห้ง.ขั้นแรกให้นึกออกสำหรับสิ่งที่พวกเราปรารถนามัสตาร์ด? จากเกรดของพืชจะขึ้นกับผลท้ายที่สุด ได้แก่ถ้าคุณปลูกมัสตาร์ดเก้าหรือสลัดคุณสามารถรับประทานใบสีเขียว มีความเหมาะสมที่จะเพิ่มสลัดสด อาหารเสริมวิตามินนี้เหมาะกับการเก็บจากพืชเล็กๆถ้าหากคุณชี้แนะให้ซื้อเม็ดมัสตาร์ดสีขาวมีโอกาสอย่างมากที่สุดที่ปรึกษาในร้านค้าซึ่งก็คือว่าคุณจะใช้พืชเป็น ciderat โน่นเป็นปุ๋ยอินทรีย์
ถ้าเกิดคุณหว่านมัสตาร์ดสีดำคุณสามารถเก็บสต็อกในเครื่องเทศได้เพิ่มผงมัสตาร์ดสับในของกินเพื่อรสเผ็ดและก็ชัดเจนถ้าหากพวกเรากำลังเอ๋ยถึงการปลูกพืชที่ทิ้งสมอจากมัสตาร์ดคุณจะได้รับน้ำมันที่มีค่าใช้ผงเมล็ดพืชเพื่อวัตถุประสงค์ทางยา (อาทิเช่นชิ้นมัสตาร์ด) และก็เพื่อเก็บน้ำผึ้ง หลังจากนั้นคุณสามารถซื้อพืชเกรด 1 ชั้นให้เลือก: สีขาว, Sizya (Sareptskaya Variety) หรือมัสตาร์ดสีดำเช้าใจกันว่ามัสตาร์ดเป็นพืชประเภทแรกๆที่เอามาเพาะปลูกโดยมีแหล่งผลิตหลักอยู่ที่อียิปต์ ประเทศอินเดียแล้วก็จีน มัสตาร์ดมีราวๆ 40 สายพันธุ์ แม้กระนั้นมีเพียงแค่ 3 สายพันธุ์เพียงแค่นั้นที่ประยุกต์ใช้ทำเป็นมัสตาร์ด ธรรมดาแล้วรสของมัสตาร์ดในแต่ละพื้นที่จะมีความต่างกัน แต่ว่ารสหลักเลยก็คือรสของความเผ็ด
โดยจะมีตอนความเผ็ดตั้งแต่เผ็ดน้อยไปจนกระทั่งเผ็ดมากมายๆแม้กระนั้นเว้นแต่ เมล็ดมัสตาร์ดต้นสีแดง ความเผ็ดแล้วมัสตาร์ดก็ยังมีความหวานซ่อนเร้นอยู่ด้วย ทั้งชอบมีกลิ่นหอมยวนใจอ่อนๆเชิญชวนกินจ้ะปัจจุบันนี้มัสตาร์ดเป็นเครื่องปรุงรสยอดนิยมสูงที่สุดอย่างหนึ่งแล้วก็แน่ๆว่ามีของกินมากไม่น้อยเลยทีเดียวให้ทานร่วมกับมัสตาร์ด แม้กระนั้นธรรมดาแล้วมัสตาร์ดชอบถูกทานร่วมกับฮอตด็อกและก็แฮมเบอร์เกอร์เพราะว่าสามารถชูรสชาติให้อาหารพวกนี้อร่อยและก็เข้มข้นเยอะขึ้นเรื่อยๆ มัสตาร์ดเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากส่วนประกอบจากธรรมชาติที่นอกเหนือจากการที่จะมีรสชาติที่ก็ดียังมีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระรวมทั้งมีจำนวนแคลอรีที่ต่ำมากมายจ้ะ
พืชจำพวกนี้ยังสามารถดูดซึมพิษ “ซาริน” ซึ่งอยู่ในเครือญาติเดียวกับวีเอ็กซ์ แล้วก็เคยถูกกองกำลังฝ่ายรัฐบาลซีเรียใช้ประโยชน์จู่โจมข้างกบฏในเขตเมืองฆูตา เฉลียงกรุงดามัสกัสเมื่อตอนส.ค.ปีที่ผ่านมา กระทั่งส่งผลให้มีคนตายราว 1,400 คน สำหรับเพื่อการทดสอบดังที่กล่าวมาแล้ว นักวิทยาศาสตร์ผู้ดีอังกฤษได้เพาะเม็ดมัสตาร์ดสีขาวลงในดินที่แปดเปื้อนสารวีเอ็กซ์ขนาด 250 ไมโครกรัม ซึ่งเป็นระดับที่ค่อนข้างต่ำกว่าที่จะเป็นอันตรายต่อมนุษย์คนหนึ่งได้
การวิเคราะห์ดินยอดเยี่ยมในหลายๆแนวทางที่นักวิทยาศาสตร์ของหน่วยงานเพื่อการห้ามใช้อาวุธเคมี (Organisation for the Prohibition of Chemical Weapons) หรือ OPCW ใช้สำหรับในการหาร่องรอยของก๊าซทำลายประสาทที่ถูกสงสัยว่ามีการประยุกต์ใช้ในซีเรียต้นมัสตาร์ดที่เพาะปลูกเพื่อนำมาใช้เพื่อสำหรับการทดสอบนี้สามารถเก็บกักสารทำลายระบบประสาทได้เป็นเวลายาวนานกว่าในดิน ซึ่งน่าจะเป็นวัสดุที่ประยุกต์ใช้ตรวจดูสารเคมีได้ดีมากว่า คนเขียนงานศึกษาเรียนรู้กล่าว ผลวิจัยนี้แสดงถึงความน่าจะเป็นสำหรับเพื่อการใช้ต้นมัสตาร์ดขาวเพื่อกำจัดสารเคมีในดินที่แปดเปื้อน
ภายหลังผ่านจากการทำศึกอาวุธเคมีมัสตาร์ดเป็นพืชที่กินได้ซึ่งมีบ้านเกิดเมืองนอนในเขตอบอุ่นของยุโรปซึ่งอยู่ อาชา168 ในเชื้อสายกะหล่ำค่าทางด้านเศรษฐกิจของพืชจำพวกนี้ส่งผลให้เกิดการเปิดเผยแพร่อย่างมากมายแล้วก็ได้รับการปลูกฝังเป็นสมุนไพรในทวีปเอเชียแอฟริกาเหนือรวมทั้งยุโรปตรงเวลาหลายพันปี ชาวภาษากรีกแล้วก็โรมันโบราณถูกใจเม็ดมัสตาร์ดในลักษณะของแป้งรวมทั้งแป้งมัสตาร์ดจัดเป็นพืชกรุ๊ปเดียวกับกะหล่ำรวมทั้งบรอคอยควัวลี เม็ดมัสตาร์ดเป็นเครื่องเทศที่นิยมใช้สำหรับเพื่อการทำอาหารมาเป็นเวลายาวนาน กระทั่งปัจจุบันนี้ ด้วยเหตุว่าสามารถกระตุ้นต่อมรู้รสก้าวหน้า นอกจากนี้มัสตาร์ดยังมีสารที่มีคุณประโยชน์ทางยาอีกเยอะมากหลบซ่อนอยู่
โลกของ ‘มัสตาร์ด’ กับรสชาติที่หลากหลาย
ในด้านพฤษศาสตร์ มัสตาร์ด เป็นพืชในสกุลแล้วก็สกุลเดียวกับกะหล่ำดอก กะหล่ำปลี และก็ผักกาดขาว มัสตาร์ดที่ประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมมี 3 ประเภท ดังเช่น มัสตาร์ดสีน้ำตาล (brown mustard) มัสตาร์ดสีดำ (black mustard) และก็มัสตาร์ดสีขาว (white mustard) มัสตาร์ดสีดำรวมทั้งขาวมีเกิดในแถบยุโรปสม่ำเสมอกับทวีปเอเชีย และก็มัสตาร์ดสีน้ำตาลมีบ้านเกิดในทวีปเอเชีย โดยมากจะใช้มัสตาร์ดสีขาวเป็นเครื่องเทศ แล้วก็มัสตาร์ดจำพวกอื่นใช้ผลิตน้ำมันมัสตาร์ดมัสตาร์ดสามารถเติบโตและก็บานได้ตามธรรมชาติ แม้กระนั้นเมื่อทำเป็นสวนเป็นไร่อย่างเป็นจริงเป็นจัง ในยามที่ดอกมัสตาร์ดบานเหลืองงามพร้อมอีกทั้งไร่ มันช่างเป็นภาพอันงดงามเช่นสรวงสวรรค์สร้าง อย่าง “ทุ่งมัสตาร์ดโหลผิง” ที่แผ่นดินยูนนาน อีกหนึ่งวิวอันสวยสดงดงามที่นักเดินทางต่างใฝ่ฝันต้องการจะไปสัมผัสสักหนึ่งครั้ง
ทุ่งดอกมัสตาร์ดเมืองโหลผิง อยู่ในมนฑลยูนนาน เมืองจีน จัดเป็นทุ่งมัสตาร์ดที่มีบริเวณกว้างใหญ่ ไกลสุดสายตา ในตอนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคมจะเป็นฤดูเพาะปลูก แล้วก็ผลิดอกบานสะพรั่งเหลืองแพรวพราวสวยงาม จากอุตสาหกรรมการกสิกรรม ได้เปลี่ยนมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ล่อใจนักเดินทางทั่วทั้งโลก สร้างรายได้ให้กับคนภายในพื้นที่ได้อย่างยอดเยี่ยมทีเดียวมัสตาร์ดทำใหม่โดยแนวทางเพาะเม็ด สำหรับการรับเมล็ดพันธุ์ของคุณจากผักกาดหอมที่หว่านในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่บานในช่วงเวลากลางเดือนเดือนมิถุนายนให้ทิ้งพุ่มไว้สองสามต้นในปีต่อไป ปริมาณเม็ดในหนึ่งฝักมีตั้งแม้กระนั้น 12 ถึง 20 ชิ้น เม็ดขนาดเล็กสีน้ำตาลอ่อนเมื่อตกลงสู่ดินคูณด้วยการโปรยเอง
ชื่อที่ใช้ในรัสเซีย “มัสตาร์ด” บ่งถึงคุณลักษณะที่สำคัญที่สุดของพืช – มันขมหรือเปล่าขม เมล็ดมัสตาร์ดต้นสีแดง แต่ว่าการเผาไหม้รวมทั้งทุกส่วนของมันมีรสชาติที่แบบเดียวกันและก็ปรากฏขึ้นเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากปฏิกิริยาทางเคมีที่เกิดขึ้นในเม็ดที่มีการแบ่งแยกหรือเยื่ออื่นๆของพืชกระบวนการไขปัญหาสองเปอร์เซ็นต์ของน้ำมันหอมระเหยมัสตาร์ดเรียกว่า แอลกอฮอล์มัสตาร์ด รวมทั้งใช้เพื่อสำหรับการหมอเป็นระคายเขตแดนพร้อมด้วย พลาสเตอร์มัสตาร์ด. เนื่องมาจากความบาดหมางของ synigrin เกิดขึ้นภายใต้พฤติกรรมของโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี myrosin และก็โปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีเป็นโปรตีนในธรรมชาติผลของมันขึ้นกับอุณหภูมิ
ในมัสตาร์ดนั้นอุดมไปด้วยสารกลูวัวสิโนเลตส์ (Glucosinolates) สารประกอบในกรุ๊ปซัลเฟอร์ ซึ่งสามารถเจอได้ในในผักเครือญาติกะหล่ำต่างๆ(Cruciferous Vegetables) เป็นต้นว่า กะหล่ำปลี กระหล่ำดอก บร็อคโคลี่ หรือแม้กระทั้งในมัสตาร์ด ฯลฯ สารกลูวัวสิโนเลตส์ (Glucosinolates) นี้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่บางทีอาจช่วยปกป้องรักษาร่างกายจากความทรุดโทรมของเซลล์ ช่วยต้านการอักเสบ แบคทีเรีย รวมทั้งเชื้อรา มีคุณลักษณะช่วยทำให้แผลฟื้นฟูได้เร็วขึ้น ทั้งยังบางทีอาจสามารถช่วยคุ้มครองปกป้อง ไม่ให้เซลล์ของโรคมะเร็งเจริญวัยหรือแพร่ขยายได้อีกด้วยนอกเหนือจากนี้ ในมัสตาร์ดยังเป็นแหล่งสำคัญของสารต้านอนุมูลอิสระในกรุ๊ปฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ที่มีงานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยพบว่า สามารถช่วยคุ้มครองจากโรคเรื้อรังต่างๆยกตัวอย่างเช่น โรคหัวใจ หรือเบาหวาน ฯลฯ